การเรียนรู้เชิงรุก
(Active Learning)
การจัดการเรียนการสอนในยุคโลกาภิวัตน์นั้น ถือเป็นสิ่งที่สำคัญ
เราจะเห็นได้ว่าการเรียนรู้ของเรานั้น เกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา
เนื่องจากการดำเนินชีวิตประจำวันในวันหนึ่งๆ เราทุกคนต้องเผชิญกับเหตุการณ์ต่างๆ
อาจะเป็นสถานการณ์ที่เคยพบเจอ หรืออาจเป็นสถานการณ์ใหม่ๆ ที่ไม่เคยพบเจอ แต่ก็ไม่ได้เป็นสถานการ์ณที่คล้ายคลึงกันเลยทีเดียว
ดังนั้นมนุษย์เราจึงเกิดการเรียนรู้ได้อย่างรวดเร็วและสามารถปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ต่างๆที่ตัวเองเผชิญหน้าอยู่ได้
หากจะกล่าวถึงความหมายของการเรียนรู้
มีนักจิตวิทยาและนักการศึกษาที่มีชื่อเสียงหลายท่านได้ให้ความหมายของการเรียนรู้ไว้หลายท่านด้วยกัน
ดังนี้ อีแอลธอร์นไดท์ (E.L Thorndike; 1967) กล่าวว่า
“การเรียนรู้ คือ การเชื่อมโยงระหว่างสิ่งเร้าและปฏิกิริยาการตอบสนอง” วอร์เชล (Worchel; 1989) ) กล่าวว่า “การเรียนรู้
เป็นกระบวนการของการให้ประสบการณ์หรือการปฏิบัติการ จนทำให้บุคคลเกิดความสามารถในการกระทำกิจกรรมใดกิจกรรมหนึ่ง
โดยที่ความสามารถนั้นจะเกิดถาวร” เป็นต้น
ในยุคปฏิรูปการเรียนการสอนนั้น
เพือให้สอดคล้องกับนโยบายปฏิรูปการศึกษา ได้มีทฤษฏีการเรียนรู้หลายทฤษฏีด้วยกัน
ในส่วนนี้จะขอกล่าวถึง การเรียนรู้แบบเชิงรุก (Active
Learning) หลายๆคนคงเคยคุ้นฟังกันดี การเรียนรู้แบบ Active Learning หมายถึง
การให้ผู้เรียนมีบทบาทในการแสวงหาความรู้และเรียนรู้อย่างมีปฏิสัมพันธ์กันจนเกิดความรู้
ความเข้าใจ สามารถนำไปประยุกต์ใช้สามารถวิเคราะห์ สังงเคราะห์
ประเมินค่าหรือสร้างสรรค์สื่งต่างๆ และพัฒนาตนเองเต็มความสามารถ
รวมถึงการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ให้ผู้เรียนได้มีโอกาสร่วมอภิปรายให้มีโอกาสฝึกทักษะทางด้านการสื่อสาร
ทำให้ผลการเรียนรู้เพิ่มขึ้นถึง 70%
ลักษณะของ Active Learning (อ้างอิงจาก :ไชยยศ เรืองสุวรรณ)
เป็นการเรียนการสอนที่พัฒนาศักยภาพทางสมอง ได้แก่ การคิด การแก้ปัญหา
การนําความรู้ไปประยุกต์ใช้
เป็นการเรียนการสอนที่เปิดโอกาสให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมในการเรียนรู้
ผู้เรียนสร้างองค์ความรู้และจัดระบบการเรียนรู้ด้วยตนเอง
ผู้เรียนมีส่วนร่วมในการเรียนการสอน มีการสร้างองค์ความรู้
การสร้างปฎิสัมพันธ์ร่วมกัน และร่วมมือกันมากกว่าการแข่งขัน
ผู้เรียนได้เรียนรู้ความรับผิดชอบร่วมกัน การมีวินัยในการทํางาน
และการแบ่งหน้าที่ความรับผิดชอบ
เป็นกระบวนการสร้างสถานการณ์ให้ผู้เรียนอ่าน พูด ฟัง คิด
เป็นกิจกรรมการเรียนการสอนเน้นทักษะการคิดขั้นสูง
เป็นกิจกรรมที่เปิดโอกาสให้ผู้เรียนบูรณาการข้อมูล, ข่าวสาร, สารสนเทศ, และหลักการสู่การสร้างความคิดรวบยอดความคิดรวบยอด
ผู้สอนจะเป็นผู้อํานวยความสะดวกในการจัดการเรียนรู้
เพื่อให้ผู้เรียนเป็นผู้ปฏิบัติด้วยตนเอง
ความรู้เกิดจากประสบการณ์ การสร้างองค์ความรู้
และการสรุปทบทวนของผู้เรียน
บทบาทของครู กับ Active
Learning มีดังนี้
1. จัดให้ผู้เรียนเป็นศูนย์กลางของการเรียนการสอน
กิจกรรมต้องสะท้อนความต้องการในการพัฒนาผู้เรียนและเน้นการนำไปใช้ประโยชน์ในชีวิตจริงของผู้เรียน
2. สร้างบรรยากาศของการมีส่วนร่วม
และการเจรจาโต้ตอบที่ส่งเสริมให้ผู้เรียนมีปฏิสัมพันธ์ที่ดีกับผู้สอนและเพื่อนในชั้นเรียน
3. จัดกิจกรรมการเรียนการสอนให้เป็นพลวัต
ส่งเสริมให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมในทุกกิจกรรมรวมทั้งกระตุ้นให้ผู้เรียนประสบความสำเร็จในการเรียนรู้
4. จัดสภาพการเรียนรู้แบบร่วมมือ
ส่งเสริมให้เกิดการร่วมมือในกลุ่มผู้เรียน
5. จัดกิจกรรมการเรียนการสอนให้ท้าทาย
และให้โอกาสผู้เรียนได้รับวิธีการสอนที่หลากหลาย
6. วางแผนเกี่ยวกับเวลาในจัดการเรียนการสอนอย่างชัดเจน
ทั้งในส่วนของเนื้อหา และกิจกรรม
7. ครูผู้สอนต้องใจกว้าง ยอมรับในความสามารถในการแสดงออก
และความคิดเของที่ผู้เรียน
อาจสรุปได้ว่า
การเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) หรือการเรียนรู้แบบลงมือทำหรือปฏิบัติ
เป็นกระบวนการเรียนรู้ที่ให้ผู้เรียนได้เรียนรู้อย่างมีความหมาย
โดยการร่วมมือระหว่างผู้เรียนด้วยกัน ในการนี้
ครูต้องลดบทบาทในการสอนและการให้ข้อความรู้แก่ผู้เรียนโดยตรงลง
แต่ไปเพิ่มกระบวนการและกิจกรรมที่จะทำให้ผู้เรียนเกิดความกระตือรือร้นในการจะทำกิจกรรมต่างๆ
มากขึ้น แต่เหนือสิ่งอื่นใด ผู้ที่จะก่อให้เกิดสภาพนี้ได้คือ ครูผู้สอนที่จะต้องมีสภาพของ
Active Teaching ก่อน และไม่ว่าเราจะใช้คำศัพท์ใดๆ
หรือใช้นิยามหรือคำจำกัดความใดๆ ที่จะกว้างหรือแคบก็ตามสิ่งที่เราในฐานะครูผู้สอน
ซึ่งต้องรับผิดชอบโดยตรงต่อการเรียนรู้ของผู้เรียนนั้น
จะต้องคำนึงถึงก็คือทำอย่างไรจึงจะให้ผู้เรียนได้เกิดการเรียนรู้ที่พึงประสงค์
และครบถ้วนถามที่สังคมยุคปฏิรูปการศึกษาได้มุ่งหวังไว้
ไม่ใช่สอนเพื่อเด็กเรียนรู้เพียงเพื่อจำเอามาตอบเราได้เท่านั้น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น